เหตุการณ์ที่ฮ่องกงยังคงยืดเยื้อต่อเนื่องมาถึง 13 สัปดาห์นี้ ล่าสุดการสลายการชุมนุมครั้งล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้ทำการปราบจลาจล นอกจากการใช้กระสุนยางและยิงแก๊สน้ำตาแล้ว ยังได้ทำการฉีดน้ำสีฟ้าใส่ฝูงชนที่ลุกฮือประท้วงอีกด้วย
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ได้มีการโพสต์ข้อความอธิบายถึงสาเหตุของวิธีการเของเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวฮ่องกง
จากข่าววันเสาร์ที่ผ่านมา (31-08-2019) ที่ทางการของฮ่องกงได้มีการใช้งานสีย้อมสีน้ำเงินละลายน้ำแล้วฉีดใส่ผู้ชุมนุมประท้วงเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ชุมนุมได้แบบที่เรียกว่าเป็นหลักฐานติดตัวอย่างน้อย 3-7 วันได้เลย จากลิงก์นี้นะครับ
https://twitter.com/jasonyng/status/1167754810851876866?s=21
โดยเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า น้ำสีฟ้าที่ฝ่ายตำรวจฮ่องกงใช้นั้น เป็นน้ำที่ผสมกับสีเมธิลลีนบลู (Methylene Blue) หรือสีในกลุ่มของ Azure A, B, C หรืออาจจะเป็นสีของ Thionine (Lauth’s violet) เป็นลักษณะสีย้อมที่มีโครงสร้างส่วนให้สี (Chromophore) เป็น ไธอะซีน (Thiazines) ที่มีประจุบวก (cationic dyes) ที่สามารถติดบนวัสดุโปรตีน ทั้งผิวหนังคน เชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงเส้นใยไหม และขนสัตว์ได้ดี
ซึ่งวัตถุประสงค์ในการฉีดน้ำเป็นสีๆ ในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมการประท้วง และยังสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำผสมสีดังกล่าวนั้นจะติดอยู่บนผิวหนังได้ในระยะเวลา 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและการชำระล้างของแต่ละคน
ทั้งนี้ น้ำผสมสีประเภทนี้ยังทนต่อการซักล้าง ซักฟอกทุกชนิด หรือแม้กระทั่งน้ำยาซักผ้าขาวด้วย ทางเดียวที่จะทำให้สีจางหายไปก็ต้องทำให้ผิวหนังผลัดเซลล์เองตามธรรมชาติ หรืออาจจะต้องขี้ไคลและหนังกำพร้าออกอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว
ภาพจาก FB : เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว