นี่คือคำพูดที่ของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เสมือนเป็นคำสัญญา เป็นสัญญาต่อหน้านายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ที่มี บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่ายุคนี้ต้อง อาวุโสและห้ามซื้อขายตำแหน่ง
ที่สำคัญ นายกฯย้ำถึงการแต่งตั้งในแบบของทหาร ที่ไม่มีข้อครหาเรื่องวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง
วันแรกไม่มีใครเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำได้เพราะว่า ที่ผ่านมา ไม่มีนายกฯคนไหนหรือรองนายกฯที่ได้รับมอบหมาย จะทำให้การแต่งตั้งในวงการตำรวจเป็นไปอย่างยุติธรรม
ในอดีต มีข้อครหามากมายว่า มีการตั้งโต๊ะซื้อขายเก้าอี้ โดยผู้มีอำนาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ระบบคุณธรรมถูกทำลาย จนสตช.กลายเป็นองค์กรที่ไร้ซึ่งคุณธรรม
มีตำรวจหลายนาย ลาออก มีตำราจหลายนายฆ่าตัวตาย เหตุเพราะการโยกย้ายที่ไม่มีความยุติธรรม จนมีการกล่าวว่า องค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมและเป็นยุคตกต่ำที่สุด
เพราะอำนาจการแต่งตั้งไปอยู่ในมือของตำรวจที่ยศน้อยกว่าผบ.ตร.!!!!!
เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามา แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไปประกาศกลางสภาในวันแถลงนโยบายว่า จะคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเอง
วันต่อมา นักข่าวไปถาม บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ยังได้ตอบนักข่าวว่า จะช่วยดูด้วย นี่เลยสร้างความสับสนในวงการตำรวจว่า ตกลงสตช.ยังจะอยู่ภายใต้อาณัติของ บิ๊กป้อม อีกหรือ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เล่นที่ 136 ตอนที่90 ก ได้เผยแพร่ประกาศ กฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ(ฉบับที่2) ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2562 มีพล.อ.ประยุทธ์ ลงนามเองในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)
และกฎก.ตร.ที่แก้ไขใหม่นี้ ให้ใช้ “อาวุโส” เป็นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งตำรวจ พร้อมอธิบายคำว่า”อาวุโส”ไว้อย่างชัดเจน
นั้นหมายความว่า จะไม่มีการข้ามหัว ข้ามอาวุโส อีกแล้ว นี่นับเป็นสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นกำกับสตช.ของ นายกฯ และจะได้ใจตำรวจน้อยใหญ่ที่ถูกข้ามหัว ถูกดอง ถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
มันเหมือนแสงไฟที่ปลายอุโมงค์อันจะนำไปสู่การ”ปฏิรูปตำรวจ” ครั้งใหญ่
จากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยไหว้วานให้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ มานั่งเป็นประธานเรื่องปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ แต่ไม่สำเร็จเพราะมีพวกตำรวจ”มาเฟีย”คอยขัดขวางอยู่
แน่นอนว่า การมาของ บิ๊กตู่ เป็นการมาล้างบางแก๊งตำรวจที่หากินกับการแต่งตั้งโยกย้ายมานาน และอยากจะบอกว่า กลุ่มอำนาจเก่าที่ยังมีความหวังว่าจะได้หวนกลับมาผงาดในสตช.อีกครั้งนั้น หลังจากที่นายได้กลับมา คงหมดหวัง
หรือว่าระเบิดหน้าสตช.จะเป็นฝีมือของคนวงใน ตามความเห็นของ อ.ปณิธาน วัฒนายากร อดีตรองเลขาธิการรองนายกฯบิ๊กป้อม
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่า เหตุระเบิดป่วนกรุง ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งหมายความว่า นอกจากระเบิดการเมือง ยังมีประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ รวบงานความมั่นคงมาคุมทั้งหมด ไม่ว่าทหาร ตำรวจ และดีเอสไอ
จึงทำให้มีกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์วางแผนก่อเหตุ ดีไม่ดี มาสเตอร์มายด์อาจอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากศูนย์กลางแห่งอำนาจ